1.ผสมดินกับแกลบหรือฟางข้าว อัตราส่วน 1:1 และเทน้ำให้ดินพอแฉะเล็กน้อย ย่ำดินให้เข้ากัน ให้สังเกตว่าดินจะติดเท้าและเห็นเป็นรอยเท้าบนเนื้อดิน แสดงว่าใช้ได้แล้ว

2.นำดินมาใส่ในบล็อกแม่พิมพ์ ปาดหน้าดินให้เรียบและยกแม่พิมพ์ขึ้น หากทำในช่วงที่แดดดีๆ ดินจะไม่ติดแม่พิมพ์เวลายกออก

3.จากนั้นให้ตากก้อนอิฐดินหลายๆแดดให้แห้ง หรือประมาณ 5-7 วัน

4.สร้างฐานบ้านให้มั่นคงตามความต้องการเพื่อให้บ้านมีความแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย สามารถอยู่ได้ไปยาวๆ

5.เทพื้นบ้านด้วยภูมิปัญญาแบบท้องถิ่น

6.ก่อผนังบ้านด้วยก้อนอิฐดิน ให้เตรียมดินสำหรับก่อผนังโดยใช้ดินและแกลบ อัตราส่วน 1:1 ผสมให้เข้ากัน แต่ดินก่อจะใช้น้ำมากกว่าการทำก้อนอิฐดิน แต่ระวังอย่าให้เหลวหรือข้นจนเกินไป

7.ติดตั้งวงกบประตูหน้าต่าง โดยใช้ไม้ค้ำยันไว้ก่อกำแพงให้ชนกับวงกบของประตูและหน้าต่างได้เลย

8.ฉาบผนังภายใน จะใช้เป็นดินที่ผสมแบบเดิมก็ได้ โดยเพิ่มความเหลวอีกนิดหน่อย หรือจะประยุกต์ด้วยการนำดินสอพองมาใช้ฉาบผนังก็ได้ การฉาบผนังจะฉาบด้วยมือ เพื่อให้มีความขรุขระหรือจะใช้เกียงฉาบ เพื่อให้ได้ผนังแบบเรียบๆ ก็ได้ตามความชอบ

9.การทาสีผนังภายนอก จะเพิ่มการเคลือบผิวดิน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นมาเกาะติด และใช้ดินที่มีสีเพื่อเพิ่มสีสันให้กับผนัง โดยมีส่วนผสมดังนี้

• ดินสีร่อน 1 ส่วน (ในที่นี้ใช้ดินลูกรัง)
• ดินทรายร่อน 1 ส่วน
• กาวแป้งเปียก 1 ส่วน

นำส่วนผสมมาใส่กะละมัง และผสมให้เข้ากัน ระวังอย่าให้เหลวจนเกินไปจะทำให้การยึดเกาะผนังได้ไม่ดี จากนั้นทำการทาสีผนังโดยใช้มือ หรือหากใช้แปรงทาสีให้เพิ่มความเหลวของสีที่ใช้ผสมอีก

10.เสร็จแล้วบ้านดิน ทั้งภายนอกและภายใน สีสันสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

11.มุงหลังคาโดยใช้โครงสร้างที่แข็งแรง และเลือกวัสดุทำหลังคาตามความชอบ

12.บางท่านที่มีฝีมืออาจจะสร้างจิตรกรรมบนผนังเพื่อเพิ่มความสวยงามก็สามารถทำได้

13.หรือตกแต่งพื้นด้วยหินทำเป็นลวดลายได้ตามชอบ

14.เสร็จแล้วบ้านดินที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรง น่าภาคภูมิใจ น่าอยู่อาศัย บรรยากาศเป็นธรรมชาติ