การทำนาโยนกล้า
"นาโยนกล้า" นวัตกรรมการทำนาแบบใหม่ที่เหมาะสมกับพื้นที่ทำนาภาคกลาง หรือพื้นที่ที่จัดการเรื่องน้ำได้ การทำนา แบบโยนกล้าจะใช้เมล็ดพันธุ์ประหยัดกว่าการทำนาหว่านน้ำตม และนาดำ ทำให้ลดต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ได้มาก อีกทั้งยัง ง่ายไม่เปลืองแรง ผลผลิตที่ได้ไม่ต่างจากการทำนาหว่านหรือนาดำ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมวัชพืชได้ดีกว่า และหากทำ นาด้วยเกษตรอินทรีย์ หรือ เกษตรปลอดสารพิษแล้ว ต้นทุนในการทํานายิ่งลดลงอย่างชัดเจน
ใช้ถาดเพาะกล้าหนาขึ้น เพิ่มต้นทุนแต่ยืดอายุการใช้งาน
ถาดเพาะกล้าแบบบางที่หนัก 40 กรัม ที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปมักใช้ไม่ได้กี่ครั้งก็ต้องทิ้ง แต่แบบน้ำหนัก 60 กรัม ซึ่งเป็นพลาสติก PVC คุณภาพสูง ซึ่งสามารถใช้งานซ้ำได้เป็น 10 ครั้ง ด้วยต้นทุนที่เพิ่มเพียงไม่กี่บาท แต่ใช้ได้นานกว่า คุ้มกว่า เพราะไม่ต้องซื้อบ่อย
โรยดินเพาะครึ่งหลุม
โรยข้าว 3-5 เมล็ดต่อหลุม
โรยดินกลบเกลี่ยให้เต็มปากหลุม
คลุมด้วยสแลนท์ รดน้ำ 15-20 วัน ประมาณ 4-6 วันให้นำสแลนท์ออก
เมื่อต้นกล้าอายุได้ 12-20 วันก็สามารถถอนกล้านำไปโยนในแปลงนาได้
ต้นกล้าพร้อมโยน
ชาวนายุคใหม่ ไม่ต้องหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน
1 คนโยนได้ 5-10 ไร่ ต่อ วัน
ข้าวนาปรัง ใช้ 100-120 ถาด/ไร่
ข้าวนาปี 80-100 ถาด/ไร่
เมื่อโยนกล้าข้าวไปแล้ว พอวันที่ 3 สามารถเริ่มไขเอาน้ำเข้านาได้ ซึ่งพบปัญหาเรื่องวัชพืชน้อย การทำนาแบบโยนกล้าจะเป็นการช่วยควบคุมการโตของวัชพืชได้ รวมทั้งข้าววัชพืชหรือข้าวดีดด้วย อีกประมาณ 7-10 วัน ต้นข้าวจะเขียวตั้งตัวได้ จากนั้นจึงทำการดูแลใส่ปุ๋ยและจัดการแปลงปลูก ต่อไปเพื่อให้ได้ผลผลิตออกมาอย่างมีคุณภาพ